เคยสงสัยกันไหมว่า เด็ก MUIC สายวิทย์
มิถุนายน 9, 2022 2022-09-13 7:32เคยสงสัยกันไหมว่า เด็ก MUIC สายวิทย์
เรียนจบแล้วเขาไปทำอะไรกัน โพสต์นี้มีคำตอบ
ใน MUIC หรือวิทยาลัยนานาชาติมหิดลมีหลักสูตรที่มีคุณภาพด้วยกันอยู่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นด้านภาษา ด้านสังคม ด้านบริหารธุรกิจ รวมไปถึง “สายวิทย์” ที่ใครหลายๆ คนอาจจะกำลังสับสนว่า เอ๊ะเรียนสายนี้จบไปจะทำอะไรดีนะ แล้วคุ้มไหมนะที่จะเลือกเดินเส้นทางนี้
“สายวิทยาศาสตร์” ในหลักสูตรของ MUIC มีด้วยกันถึง 6 สาขา ได้แก่ Applied Mathematics, Biological Sciences, Chemistry, Computer Science, Food Science and Technology และ Physics ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสาขาที่ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก
MUIC ได้เชิญรุ่นพี่ที่ได้เลือกสายวิทยาศาสตร์ที่หลากหลาย มาไขข้อข้องใจแก่น้องๆ ที่กำลังสนใจในสาขานี้ เพื่อเป็นประโยชน์และแนวทางในการเรียนต่อไป จะมีพี่ๆ คนไหนบ้างไปดูกัน
“Food Science ไม่ใช่แค่การเรียนเกี่ยวกับอาหาร แต่สำหรับพี่คือภารกิจสำคัญของมนุษยชาติ”
1 ในเรื่องที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดเกี่ยวกับสาขา “Food Science and Technology” นั่นก็คือการเรียนไปเป็นเซฟเท่านั้น แต่ “วัธนกุล มังคลรังษี” หรือ “พี่อ๊อบ” ศิษย์เก่า MUIC สาขา Food Science and Technology ได้แนะนำว่าไว้ว่า “สำหรับพี่ Food Science คือการเรียนระดับโมเลกุลของอาหาร เรียนแบบเจาะลึกถึงจุลินทรีย์ มันไม่ได้มีแค่ทำอาหารอย่างไรให้อร่อย แต่ต้องลึกไปถึงทำยังไงให้เก็บได้นาน ขนส่งปลอดภัย ตอบโจทย์ทั้งรสชาติและสุขภาพของผู้บริโภค Food Science คือสาขาวิทยาศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงโลกและนอกโลกใบนี้ได้เลย และส่วนตัวพี่อ๊อบเองก็ตั้งใจจะทำภารกิจส่งอาหารไปทั่วโลก”
ในตอนเรียนพี่อ๊อบเป็นคนที่ไม่ได้ตั้งใจเรียนมากเท่าที่ควร เพราะก็ยังค้นหาตัวเองไม่เจอขนาดนั้น แต่โชคดีที่ทางบ้านมีธุรกิจเกี่ยวกับอาหารอยู่แล้ว จึงได้มีโอกาสได้เห็นการทำงานจริง ซึ่งสอดคล้องกับความรู้ เครื่องมือ เทคโนโลยีจากที่เคยได้เรียนที่ MUIC ก็เลยสามารถช่วยงานธุรกิจที่บ้าน ต่อยอดผลิตภัณฑ์อาหาร และสร้งมูลค่าทางการเกษตรได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้น
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ พี่อ๊อบเล่าว่าถ้าได้ย้อนเวลากลับไปในช่วงที่เรียน MUIC อยากเรียนในสาขาของ Business ให้มากขึ้น และอยากทำกิจกรรมเพิ่มเติมกับทางมหาวิทยาลัยให้มากกว่านี้ เพราะในชีวิตจริงไม่ใช่แค่วิชาความรู้ที่จะติดตัวเราไปตลอด แต่การทำกิจกรรมจะทำให้เราได้พบกับเพื่อนใหม่ และต่อยอดอะไรได้อีกหลายๆ อย่างในอนาคตเลยทีเดียว
ในปัจจุบันนอกจากพี่อ๊อบจะเป็น Invester แล้ว พี่อ๊อบยังเป็น 1 ในทีม Thai Food to Space ที่ได้รับความร่วมมือจาก GISTDA ในการผลิตภัณฑ์อาหารไทยอย่างเช่น “ต้มยำกุ้ง” และ “น้ำมะพร้าว” ส่งขึ้นสู่สถานีอวกาศนานาชาติและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานได้ชิมรสชาติอาหารและยังได้สุขภาพที่สมบูรณ์ครบถ้วน สิ่งที่พี่อ๊อบอยากฝากถึงน้องๆ ที่กำลังสนใจในสายวิทยาศาสตร์ หรือกำลังเรียนอยู่ว่า “อยากให้เซต Goal ของตัวเองก่อนว่าทำไมเราถึงเลือกเรียนวิทยาศาสตร์? จบไปเราจะไปเป็นอะไรเพื่อตั้งเป้าหมายได้ตรงเป้ามากขึ้น จะช่วยให้เราประหยัดเวลาในชีวิตมากขึ้น “เพราะ Direction สำคัญกว่า Speed นั่นเอง”
“สิ่งที่เรียนจาก MUIC ไป ยังไงก็ได้ใช้อย่างแน่นอน”
“พี่ปาล์ม – ภูวรัฐ หน่อชูเวช” ศิษย์เก่า MUIC สาขา Computer Science ที่ได้มีโอกาสทำงานกับบริษัทชื่อดังระดับโลกใน Silicon Valley ที่เริ่มต้นจากการมา Campus และเลือก MUIC เป็นสถาบันที่จะศึกษาต่อนั่นเอง
. พี่ปาล์มเป็นคนที่ชื่นชอบคอมพิวเตอร์ การเขียนโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยมองว่าสาขา Computer Science เป็นวิชาความรู้ที่สามารถต่อยอดในอนาคตได้อีกมากมาย ประกอบกับการเรียนที่ MUIC ทำให้พี่ปาล์มได้เรียนโปรแกรมพื้นฐานที่มีความอัดแน่น และสามารถต่อยอดอาชีพ “Programer” และ “Data Analytics” ของพี่ปาล์มในขณะทำงานในต่างประเทศ
ส่วนตัวพี่ปาล์มแล้วความสนุกของการเรียน Computer Science นั่นก็คือการพัฒนา Logic ควบคู่ไปกับทักษะเฉพาะด้านการเขียนโปรแกรมเป็น Challenge ที่ดีและเหมาะกับการเรียน Computer Science เป็นอย่างมาก ประกอบกับการได้เรียนพื้นฐานที่อัดแน่น จะช่วยพัฒนาศักยภาพในการทำงานได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบันพี่ปาล์มเป็น CEO ของบริษัท Fintech Startup ในไทยอย่าง “CreditOK” ซึ่งยังได้ใช้ความรู้จากตอนเรียน Computer Science ในหลากหลายมิติมาก ซึ่งในตอนเรียน Computer Science ที่ MUIC พี่ปาล์มมาทางสาย Network แต่ด้วยวิชาความรู้ที่ได้เรียนมาทำให้พี่ปาล์มสามารถออกแบบธุรกิจและทำงานไปในสาย Database โดยไม่ติดขัดอะไร
“สำหรับน้องๆ ที่สนใจในสาย Computer Science หรือน้องๆ ที่กำลังเรียนอยู่ควรเน้นไปที่สาย Database เป็นหลัก รวมไปถึง Machine Learning และระบบ Cloud ต่างๆ เพราะยังไงสาย Data ก็ยังไปต่อได้อีกไกลแน่นอน”
ในโลกปัจจุบันนี้ ถ้าน้องๆ มีทักษะที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี พี่ปาล์มมองว่าจะมีโอกาสหางานได้มากกว่าปกติ เพราะบริษัทส่วนใหญ่ทั้งในประเทศไทยเองและต่างประเทศก็ล้วนต้องการผู้ที่มีทักษะเกี่ยว Computer Science ทั้งนั้น และแน่นอนว่าเด็ก MUIC จะต้องเก่งเรื่องภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการทำงานได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าการเลือกเรียน Computer Science ที่ MUIC ยังไงก็จะได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาอย่างแน่นอน.
“ไม่ใช่แค่อยากเรียน แต่ต้องใจรักด้วย
ไม่ว่ายังไงจบออกมาก็ต่อยอดอาชีพได้อย่างแน่นอน” “ถ้าย้อนเวลากลับไปในสมัยนั้น MUIC เป็นเพียงไม่กี่มหาวิทยาลัยในไทยที่มีสาขานี้ในรูปแบบของภาค Inter ประกอบกับความสนใจในด้าน Computer Science อยู่แล้วที่ทำให้ “กฤษฎา ชุตินธร” หรือ “พี่กฤษ” เลือกเรียนที่ MUIC แห่งนี้
ความสนุกของการเรียน Computer Science นั่นคือการได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่หลากหลาย และยังเป็นที่ต้องการของหลายๆ บริษัททั้งในไทยและต่างประเทศ ทำให้การเลือกเรียนสาขานี้สนุกและมีความหมายมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันพี่กฤษได้ออกแบบ Software พัฒนาและร่วมก่อตั้ง Tech Startup ร่วมกันเพื่อนๆที่เรียน MUIC มาด้วยกัน อย่าง “FlowAccount โปรแกรมบัญชี ออนไลน์ สำหรับนักธุรกิจยุคใหม่” ซึ่งตรงกับสาขาการเรียนที่พี่กฤษจบจากด้าน Software มาโดยตรง ทำให้พี่กฤษได้ใช้ความรู้จากการเรียนที่ MUIC มาทำงานในสายเทคโนโลยี ติดต่อประสานงานกับ Engineer ได้อย่างเข้าใจ รวมไปถึงมีทักษะบริหารที่ช่วยให้ Tech Startup เติบโตได้เป็นอย่างดี
“เดี๋ยวนี้งานทางด้าน Computer Science ถือว่าเป็นโอกาสอันดีแล้ว เพราะบริษัทส่วนใหญ่ต้องการทรัพยากรที่จะช่วยพัฒนาองค์การในด้านเทคโนโลยีเป็นอย่างมากในขณะนี้ ก็เป็นโอกาสที่ดีในการเลือกเรียน Computer Science แต่การเรียนสาขานี้ก็ไม่ยาก ต้องใจรักด้วย และต้องพยายามฝึกฝนทักษะอยู่เสมอ เดี๋ยวนี้ถ้าน้องๆ มีความสนใจในสาขานี้ก็สามารถหาคอร์สออนไลน์มาลองก่อนได้นะว่าชอบมันจริงๆ หรือเปล่า?”
ความยากง่ายของ Computer Science คือการต้องสนใจในเทคโนโลยีอย่างแท้จริง เปรียบเสมือนการที่คนเรียนวาดรูปก็ต้องสนใจในการวาดรูปและมีทักษะพื้นฐานด้วย ถ้าเราสนใจ เราชอบ เราเรียนไปยังไงก็สนุกแน่นอน และยิ่งการเรียนที่ MUIC ในยุคของพี่กฤษได้มีวิชาพื้นฐานให้ได้เรียนรู้ในหลายๆ ด้าน จะช่วยให้การเรียน Computer Science สนุกและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี
การเรียนที่ MUIC นอกจากจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ Computer Science อย่างเต็มที่แล้ว แต่การทำกิจกรรมต่างๆ ทำให้พี่กฤษได้เจอกับสังคมเพื่อนที่ดี ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา และบางคนยังได้ร่วมงานกันในอนาคตอีกด้วยถือว่าเป็นประสบการณ์ดีๆ ครั้งหนึ่งในชีวิต นอกจากนี้ได้เรียนรู้วิธีคิด การ Exposure ปัญหา ซึ่งป็นทักษะที่ได้เพิ่มจากการเรียน MUIC นั่นเอง
สิ่งที่พี่กฤษอยากฝากถึงน้องๆ ที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะสาขา Computer Science ได้ว่า “Computer Science ที่ MUIC เป็นภาคอินเตอร์ ซึ่งถือว่าสำคัญเป็นอย่างมากในอาชีพนี้ เพราะการทำงานจะเน้นไปที่ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เวลาเขียนโค้ดก็จะต้องเป็นภาษาอังกฤษ ฉะนั้นหากเราสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดี จะช่วยให้เราอัปเดตความรู้ใหม่ๆ และเข้าถึงเทคโนโลยีได้เองอีกด้วย”
“การเรียนที่นี้สร้าง Science Base ที่ค่อนข้างกว้าง ให้เราเลือกเองได้ว่าจะไปทำอะไรต่อ MUIC จึงเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดที่พี่จ๋าเลือกเรียนในตอนนั้น”
สำหรับนักเรียนที่ไปเรียนต่อต่างประเทศมาแบบพี่จ๋า – ธีราณี เตชะศรีวิเชียร ศิษย์เก่าสาขา Biological Science ที่ได้ไปศึกษาต่อ High School ที่ประเทศอินเดียมา ทำให้ไม่สามารถเข้าสู่ระบบศึกษาต่อของไทยได้ บวกกับความมุ่งมั่นในสายของการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ ส่งผลให้พี่จ๋าเลือกเรียนต่อในชั้นมหาวิทยาลัยที่ MUIC
เดิมทีพี่จ๋าอยากเรียนต่อในสาขาของแพทยศาสตร์ แต่ด้วยระบบการศึกษาทำให้พี่จ๋าไม่สามารถเรียนต่อได้ พี่จ๋าจึงเลือกสาขา Biological Science ที่มีความใกล้เคียงกับแพทยศาสตร์ถึงขั้น Pre – Med และได้เรียนรู้ถึงวิทยาศาสตร์สุขภาพอย่างกว้างขวางทุกมิติ ทำให้พี่จ๋าสามารถใช้ความรู้ที่มีประกอบกับประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาเข้าทำงานในตำแหน่ง National Professional Officer ที่องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทยในปัจจุบันนั่นเอง
ในตอนนั้นพี่จ๋าเรียนจบ Biological Science ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 และได้สอบทุนรัฐบาลญี่ปุ่นในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก หลังจากการเรียนจบได้ไปเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่ญี่ปุ่นอีก 5 ปี แต่พี่จ๋ามองว่าการเขียนวิจัยหรือการทำงานในมหาวิทยาลัยอาจจะไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป จึงได้เปลี่ยนสายงานเข้าสู่การทำสาธารณสุข ซึ่งจะช่วยให้ชีวิตคนอีกหลายร้อยล้านคนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้อย่างแท้จริง
“ตอนเรียน MUIC ก็สร้าง Base ที่ค่อนข้างกว้าง ให้เราเลือกเองได้ว่าจะไปทำอะไรต่อ ประกอบกับพี่จ๋าได้เรียนโท+เอก และได้ทำงานต่อแต่ไม่ค่อนเห็น Imprementation จึงเลือกทำงานที่ได้ช่วยเหลือผู้คนมากมาย สอดคล้องกับความตั้งใจเดิมของพี่จ๋าได้เป็นอย่างดี”
บรรยากาศการเรียนที่ MUIC พี่จ๋าได้บอกตามตรงเลยว่าดีมาก เพราะมีคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้กับนักศึกษาเสมอ สังคมเพื่อนก็ดี ช่วยเหลือกัน และด้วยความเป็นมหาวิทยาลัยภาคอินเตอร์ทำให้บรรยากาศการเรียนดีมากเหมือนอยู่ต่างประเทศจริงๆ “ในตอนนั้น MUIC เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดที่พี่จ๋าเลือกเรียน”
ความน่าสนุกของ Biological Science คือมีพื้นฐานการเรียนที่กว้างขวาง สามารถให้นักศึกษาเลือกเรียนได้เอง และมีความคล้ายคลึงกับคอร์ส Pre – Med ทำให้นักเรียนทุกคนมีโอกาสได้ทำงานจริง ปฏิบัติการจริง
“พี่จ๋าขอฝากกับน้องๆ ที่กำลังสนใจในสาขาวิทยาศาสตร์ที่ MUIC ให้เลือกวิชาเลือกที่มีความสอดคล้องกับความชอบของตนเอง จะช่วยให้น้องๆ ก้าวต่อไปในสายอาชีพนี้ได้ แต่หากยังไม่แน่ใจว่าอยากทำด้านไหน ให้ปรึกษาอาจารย์ได้เลยไม่ต้องกังวล หรือการทำวิทยานิพนธ์จะช่วยตัดสินใจทางเดินชีวิตได้เป็นอย่างดี”
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE ID: @muicfriend
Be the Best Version of Yourself Here at MUIC
#MUIC #MahidolInter #MahidolUniversity #วิทยาลัยนานาชาติ #มหาวิทยาลัยมหิดล #มหิดลอินเตอร์ #DEK65 #DEK66 #StudyinThailand #TCAS65 #TCAS66