“งานบริการต้องทำให้เต็มที่ ให้เกิน เพราะเขาจะประทับใจและกลับมาหาเราอีกครั้ง”

1000-THM-alumni
บทความสาระความรู้

“งานบริการต้องทำให้เต็มที่ ให้เกิน เพราะเขาจะประทับใจและกลับมาหาเราอีกครั้ง”

ทิศทางอาชีพที่เปลี่ยนไป ปรับตัวและเตรียมพร้อมอย่างไรดี กับพี่ๆ จากสาขาการจัดการการท่องเที่ยวและการบริการ ( THM. )

 จากวิกฤตการณ์ที่ผ่านมา หลากหลายธุรกิจได้รับผลกระทบจนต้องมีการปิดกิจการอย่างมากมาย โดยเฉพาะกิจการด้านการท่องเที่ยวและการให้บริการต่างๆ แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับพี่ๆ ศิษย์เก่า MUIC สาขา “การจัดการการท่องเที่ยวและการบริการ ( THM. : Tourism & Hospitality Management )” 
 สาขาการจัดการการท่องเที่ยวและการบริการ ที่ MUIC นี้ จะมุ่งเน้นให้นักศึกษาทุกคนมีทักษะพิเศษเฉพาะด้าน และมีประสบการณ์การให้บริการจริงตั้งแต่ตอนเรียน เพื่อให้นักศึกษามีภูมิคุ้มกันเป็นอย่างดี และสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะทางได้อย่างตรงจุดนั้นเอง 
 วันนี้ MUIC จะพาพี่ๆ ที่ผ่านประสบการณ์การรับมือกับวิกฤตการณ์ที่ผ่านมาแชร์ให้กับน้องๆ ที่สนใจในสายงานนี้ได้อ่านกัน จะมีพี่ๆ คนไหนจะมีคำแนะนำไหนบ้างไปดูกันเลย 

เดิมทีแล้ว “พี่นิคกี้ – นิโคล ดี.วิด” ศิษย์เก่า MUIC สาขา THM นั้นมีความตั้งใจที่เป็นเชฟตั้งแต่ก่อนจะเข้าเรียนที่ MUIC โดยได้ทำงานร้านอาหารในเซี่ยงไฮ้ แล้วกลับมาเป็นเชฟทำขนมที่โรงแรมในฮ่องกง ประเทศบ้านเกิดของตัวเอง ซึ่งจากประสบการณ์ทำงานในโรงแรมหลายปีนั้นก่อให้เกิดเป็นความชอบในสเน่ห์ของงานบริการและโรงแรม ทำให้พี่นิคกี้ตัดสินใจออกมาเรียนต่อที่ MUIC สาขา THM นั่นเอง
อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พี่นิคกี้ตัดสินใจมาเรียนก็คือ พี่สาวที่ได้มาเรียนที่ MUIC ทำให้พี่นิคกี้ได้เห็นและรับรู้ถึงประสบการณ์การเรียนที่น่าสนใจและแตกต่างจากที่อื่น หลักสูตรที่เป็น Extensive Course สอนทั้งความรู้และประสบการณ์การทำงานจริง อีกทั้งเป็นสถาบันที่มีความ International Friendly สูงมาก ซึ่งเหมาะกับพี่นิคกี้ที่เป็นชาวต่างชาติและไม่ถนัดภาษาไทย
ปัจจุบันพี่นิคกี้ได้ทำงานเป็น Cluster Assistant Sales Manager Team MICE ของโรงแรม Marriott ซึ่งจะต้องดูแลเกี่ยวกับงานอีเวนต์ที่มีขนาดใหญ่และรายละเอียดเยอะ ต้องอาศัยทั้งความรู้ ประสบการณ์และทักษะในการทำงานมาก และถึงแม้จะมีซบเซาลงไปบ้างจากสถานการณ์โควิด แต่เมื่อเริ่มเข้าสู่สถาการณ์ปกติผู้คนก็เริ่มออกเดินทาง ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวก็กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง พี่นิคกี้เองที่ทำงานทางด้านนี้ก็ต้องปรับตัวรับมือกับความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมากด้วยเช่นกัน
สิ่งที่พี่นิคกี้อยากฝากถึงน้องๆ ที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะสาขา THM “ไม่ต้องกังวลเรื่องงานหลังเรียนจบ เพราะคนมีความต้องการที่จะเดินทางอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์โรคระบาดหรืออะไรก็ตาม พอมันผ่านไปได้ช่วงหนึ่งคนก็จะกลับมาเดินทางท่องเที่ยวกันอีก สายงานการท่องเที่ยวและโรงแรมมีอะไรให้ทำเยอะมาก อยู่ที่ว่าเราจะเลือกทำอะไร”

หลายคนอาจจะคิดว่าเรียนเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและโรงแรมคือ จบแล้วจะต้องทำงานในโรงแรมเท่านั้น แต่ “นลิน เมธีผาติกุล” หรือ “พี่น้ำ” ศิษย์เก่า MUIC สาขา THM ได้บอกว่า “MUIC ให้อะไรกับเราเยอะมาก และยังรู้สึกขอบคุณจนถึงทุกวันนี้ที่ช่วยทำให้เรามาอยู่ในจุดนี้ได้ ส่วนหนึ่งมาจากอาจารย์ที่ช่วยหล่อหลอมให้เรา develop สกิลการสื่อสาร ซึ่งเป็นอะไรที่สำคัญมากตอนทำงาน เพราะไม่ว่าสิ่งที่อยู่ในหัวเรามันดีมันสุดยอดแค่ไหน ถ้าเราไม่สามารถสื่อสารออกมาได้ งานมันก็จะไม่คืบหน้า เพราะการทำงานมันต้องใช้ Interpersonal skill
ทริกเล็กๆ น้อยๆ อย่างหนึ่งที่พี่น้ำอยากจะแนะนำน้องๆ นั่นคืออยากให้น้องๆ ได้ไปลองทำงานและเรียนรู้จากหลายๆ ธุรกิจ เพื่อหาประสบการณ์ก่อน มันจะช่วยให้เรารู้ขั้นตอนการทำงานที่เป็นระบบมากขึ้น และแนะนำคนที่อยากจะไปในสายงานการโรงแรมหรือ Passion ในด้านอื่นๆ ว่าให้มุ่งตรงไปเลยในเส้นทางที่เราต้องการและเต็มที่กับมันให้มากที่สุด
ในปัจจุบันพี่น้ำได้ช่วยงานธุรกิจของทางบ้านคือ งานบริหารโรงแรม เดอเจ้าจอม หัวหิน และดำรงตำแหน่ง COO บริษัท Alpha Group ที่นำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์โรงงานให้กับหลายธุรกิจในประเทศไทย
สิ่งที่พี่น้ำอยากฝากถึงน้องๆ ที่กำลังสนใจในสายการท่องเที่ยวและการโรงแรม หรือกำลังเรียนอยู่ว่า “ถ้ารู้ตัวว่าอยากมาทางสายงานนี้ก็ขอแนะนำ THM เพราะเป็นหลักสูตรที่ครอบคลุมทั้ง Service Industries ซึ่งช่วยให้เราฝึกสกิลทุกอย่างที่มัน Practical และเตรียมพร้อมเราก่อนที่จะเข้าสู่การทำงาน”

  จากความชอบในวัยเด็กทีเริ่มต้นจากการติดตามพ่อแม่ไปงานต่างๆ พอขึ้นมัธยมก็ได้โอกาสไปช่วยงานแต่งงานของพี่ชายและพี่สาว ได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของทางโรงเรียน ประกอบกับมหาวิทยาลัยนั้นอยู่ใกล้บ้าน ทำให้ “พี่แพทตี้ – พรสิรี จรัสศรีวิไล” ศิษย์เก่า MUIC สาขา THM นั้นเลือก MUIC เป็นสถาบันที่จะศึกษาต่อนั่นเอง 

 ส่วนตัวพี่แพทตี้เองมองว่า การเรียนของ THM มีความสนุกตรงที่ได้ลงมือทำจริงๆ และได้ทดลองสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ถึงแม้จะยากแต่ก็รู้สึกสนุกไปกับการเรียนได้ทุกครั้ง เพราะทั้งเพื่อนๆ พี่ๆ และอาจารย์คอยให้คำปรึกษาและการสนับสนุนอยู่ตลอด ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้พี่แพทตี้เองได้มีโอกาสไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ University of Surrey ที่ประเทศอังกฤษด้วย

  ปัจจุบันพี่แพทตี้ได้เปิดธุรกิจ Wedding Planner ของตัวเอง ซึ่งตัวพี่แพทตี้เล่าว่า “ทุกสิ่งที่ได้เรียนมาตอนอยู่มหาวิทยาลัยนั้นได้นำมาใช้ในการทำงานจริงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความรู้ ประสบการณ์ และ Skill ต่างๆ รวมไปถึงวิธีการคิดและการมองโลก โดยเฉพาะในช่วงโควิดที่เกิด New Normal ต้องปรับตัวใหม่กันหมด ซึ่ง MUIC สอนให้เราไม่หยุดเรียนรู้ ทำให้เราไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง และเราเองก็ Looking For Opportunities In Worst Scenerios ตลอดเวลา”
พี่แพทตี้อยากฝากถึงน้องๆ ที่กำลังสนใจในสายงานบริการหรือกำลังเรียนอยู่ “อยากให้มี Motivation ในใจตัวเองตั้งแต่ต้น มันจะช่วยให้เราไปต่อได้ในทุกทาง อย่ากลัวที่จะแสดงออกหรือแตกต่าง อย่าหยุดเรียนรู้ อย่ากลัว อยากทำอะไรลองเลย

วันนี้อาจจะใช่สำหรับคุณ วันต่อไปอาจจะไม่ใช่แล้ว ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณจะทำรึเปล่า

  “พี่พิงค์ – พรเพ็ชร ธรรมะรัตน์ธนดี” ศิษย์เก่า MUIC สาขา THM เป็นอีกคนหนึ่งที่รู้ตัวเองมาตั้งแต่เด็กว่าชอบการดูแลคนอื่นให้มีความสุข ประกอบกับพี่พิงค์เองใฝ่ฝันที่จะเป็นแอร์โฮสเตสตั้งแต่เด็ก ทำให้พี่พิงค์เลือกเรียนที่สถาบันที่จะได้ทั้งภาษาและประสบการณ์ทำงานจริง ซึ่งก็คือ MUIC สาขา THM แห่งนี้
 พี่พิงค์เล่าว่า ในตอนเรียนที่เรียนอยู่ที่ MUIC นั้นนอกจากจะได้เรื่องภาษาแล้ว ยังได้ฝึกประสบการณ์ที่ได้ลงมือทำจริงๆ และได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ก็สามารถนำไปต่อยอดและทำตามความฝันให้เป็นจริงได้ในที่สุด เพราะพี่พิงค์ได้โอกาสไปทำงานกับสายการบินที่มีชื่อเสียงอย่าง Singapore Airline นั่นเอง

 ปัจจุบันพี่พิงค์ทำงานเป็น Operation and Online Manger ของ Coffee Beans by Dao ซึ่งได้ใช้ทั้งความรู้ที่ได้เรียนจาก MUIC ไม่ว่าจะเป็น Strategic Planning, Marketing, หรือ Consumer Behavior และประสบการณ์การทำงานทั้งหมดนั้นมาใช้กับการทำงานจริงๆ รวมไปถึง Soft Skills ต่างๆ ทั้งการทำงานเป็นทีม การแก้ไข้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งเป็นสกิลที่สำคัญมากต่อการทำงานในชีวิตจริง โดยเฉพาะในช่วงโควิดที่ธุรกิจต่างๆ ต้องหันมาพึ่งพาช่องทางออนไลน์ ซึ่งหลายคนรวมถึงพี่พิงค์เองก็ต้องเปิดใจเรียนรู้และปรับตัวให้เข้าสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปได้

 

“พี่พิงค์ขอฝากน้องๆ ทุกคนว่าให้เรามีความเชื่อมั่นว่าเราจะทำสิ่งนี้ได้ หรือถ้าไม่ก็อยากให้คิดว่าอยากให้ลองถามตัวเองว่าเราทำอะไรได้ดี เราถนัดอะไร สนใจด้านไหน และอะไรเป็นจุดแข็งของเรา ก็ขอให้มั่นใจกับสิ่งนั้น ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนค่ะ”